“ว่าด้วยเรื่องการทำesthetic CLในเคสที่มีfrenumเกาะสูง”
ย้อนกลับไปเบสิคว่า… Frenumที่อาจก่อให้เกิดพยาธิสภาพคือ
-frenumที่เกาะชิดขอบเหงือกเลย หรือใกล้ขอบเหงือกจนkeratinizedเหลือน้อยมาก,
-frenumที่เกาะสูงจนทำให้vestibuleตื้นมากๆ
-frenumที่ทำให้ขอบเหงือกขยับเมื่อคนไข้ขยับแก้ม, ขยับริมฝีปาก, หรือเมื่อเราลองtestด้วยการmold muscleดู พบว่าขอบเหงือกขยับตามไปด้วย
-frenumที่เมื่อเราลองขยับดูแล้วพบว่าเกิดสีขอบเหงือกหรือIDPที่ซีดลง (เกิดลักษณะischemiaบริเวณขอบเหงือกหรือIDP)
-frenumที่สัมพันธ์กับlocalized recession,
-frenumที่ใหญ่มากๆจนดึงรั้งให้ริมฝีปาก/ลิ้นผิดรูปมาแนบรั้งกับfrenumชิ้นนี้,
-frenumที่ใหญ่จนขัดขวางการดูแลoral hygieneของคนไข้,
-frenumที่ใหญ่และสัมพันธ์กับการเกิดmedial diastema
โดยในกรณีการทำesthetic CLในเคสที่มีfrenumเกาะสูงนั้น ส่วนตัวผมแล้วสามารถให้การรักษาโดยวางtreatment planได้หลายทางขึ้นอยู่กับว่าfrenumเคสนั้นๆเกาะสูง(เกาะใกล้ขอบเหงือก)มากน้อยขนาดไหน
กล่าวคือ…
กรณีที่1
ถ้าfrenumเกาะสูงใกล้ขอบเหงือกมาก แทบไม่เหลือkeratinizedเลย(<2mm) บางรายเกาะชิดขอบเหงือกเลยก็มี
หากคุณหมอเจอเคสแบบนี้จำเป็นต้องทำfrenectomyก่อนการทำesthetic CL (แบ่งเป็น 2 stage) โดยปกติเคสCLที่ต้องมีการทำfrenectomyผมมักจะเลือกเทคนิคfrenectomyที่จะได้keratinizedเพิ่มหลังทำ เช่น เทคนิคdiamond, apically flap, FGG,… ผมจะไม่ค่อยใช้พวกเทคนิค miller, Z plasty, V Y plastyเท่าไร เพราะเทคนิคพวกนี้มันใช้หลักการเย็บflapเพื่อเปลี่ยนทิศทางของmuscleซึ่งเป็นแผลflapที่primaryหมด ซึ่งมันจะไม่ค่อยได้keratinizedขึ้นมา
โดยระยะเวลารอhealหลังfrenectomyก่อนนัดมาesthetic CLอยู่ที่ >6-8wk
กรณีที่2
frenumเกาะสูง โดยที่จุดเกาะห่างขอบเหงือกอย่างน้อย 2 mm และระยะkeratinizedที่เหลืออยู่นี้น้อยกว่าระยะจริงที่เราอยากจะgingivectomyออก เช่น CEJอยู่ใต้เหงือก>keratinized (พวกเคส coslet’s Cl 2)
กรณีนี้คุณหมอมี 2 ทางเลือก
1. ตัดfrenumไปก่อนเหมือนกรณีแรก รอheal 6-8wk ค่อยนัดมาทำesthetic CL
2. ทำesthetic CLไปได้เลย โดยstepที่ต้องgingivectomyให้เปลี่ยนเป็นลงintrasulcular แล้วจบด้วยการapically flapและเย็บsling sutureช่วยแทน –> หลักการเหมือนเคสesthetic CLปกติที่มีkeratinizedไม่พอ.. แล้วหลังesthetic CLไป 3 เดือนค่อยมาfrenect, บางคนที่หลังทำesthetic CLไปแล้วเหลือkeratinizedวัดจากขอบเหงือกถึงfrenum>2mm และตรวจพบว่าไม่มีลักษณะfrenumที่ก่อพยาธิสภาพดังที่กล่าวไปในตอนต้น ก็อาจจะไม่ต้องทำfrenectomyก็ได้
กรณีที่3
frenumที่มองผิวเผินแล้วดูเหมือนจะเกาะไม่สูงมากหรือเกาะสูงน้อยกว่า2กรณีแรก แต่เมื่อประเมินดูดีๆแล้วพบว่าหากถูกทำgingivectomyในstep esthetic CLไปแล้ว ไปๆมาๆจะกลายเป็นfrenumเกาะสูงในตอนจบไป
กรณีนี้คุณหมอมี 3 ทางเลือก
1. ตัดfrenumไปก่อนเลยเหมือนกรณีแรก รอ 6-8wk ค่อยมาทำesthetic CL
2. ทำesthetic CLได้เลยพร้อมทั้งตัดfrenumไปในvisitเดียวนี้ โดยหากคุณหมอเลือกทางนี้ แนะนำให้เลือกเทคนิคfrenectomyที่invasiveน้อย เช่น เอาLASERหรือelectrosurgeryมาช่วย, V Y plasty, Z plasty, หรือถ้าขนาดfrenumมันเล็กจริงๆก็ยังพอใช้diamond techniqueได้ ซึ่งเหตุผลที่ต้องใช้เทคนิคที่invasiveน้อยเนื่องจากกังวลว่าtraumaจากทั้งesthetic CLและfrenectomyหากมีมากเกินไปจะทำให้healingขอบเหงือกออกมาไม่ดี เช่นอาจเกิดเหงือกร่นมากกว่าที่เราต้องการได้
3. ทำCLได้เลย โดยstepที่ต้องgingivectomyให้gingivectomyแค่บางส่วนแล้วลงintrasulcularต่อ เพื่อจบด้วยการapically flapช่วย (และเย็บsling suture) –> แล้วหลังesthetic CL ค่อยประเมินการทำfrenectomyอีกที ด้วยธรรมชาติพวกเคสกรณีที่3เหล่านี้ ด้วยkeratinizedที่มันมีมากกว่ากรณีที่1,2 ทำให้หลายครั้งที่หลังCLไปแล้วอาจไม่ต้องมาfrenectomyก็ได้ อย่างไรก็ตามเช่นเคยคือการพิจารณาว่าหลังทำesthetic CLไปแล้ว frenumที่เหลืออยู่จะยังต้องตัดอยู่มั้ยให้คุณหมอประเมินสภาวะที่จะก่อพยาธิสภาพของfrenumตามเนื้อหาในส่วนแรกสุดของบทความนี้ได้เลยครับ